เด็ก นอนคว่ำหรือนอนหงาย
เด็กๆส่วนมากชอบนอนคว่ำเพราะสบายกว่านอนหงาย โดยเฉพาะเด็กที่ร้องเก่งๆ ร้อง โคลิก หรืออาหารไม่ย่อย นอนในท่าคว่ำสบายขึ้น
เด็กบางคนชอบนอนหงาย ซึ่งมีข้อเสีย 2 อย่าง
1.ถ้าเด็กอาเจียนหรือแหวะนมจะสำลักเข้าไปได้ง่าย
2.เด็กมักจะนอนเอียงศีรษะเข้าหาใจกลางของห้อง ในที่สุดจะทำให้หัวแฟบไปข้างหนึ่ง ไม่มีอันตรายต่อสมอง แต่รูปศีรษะไม่สวยเลย โตขึ้นหวังจะไม่โหนกดูไม่สวยเฉพาะถ้าตัดผมสั้นๆ
คุณอาจจะแก้ไขโดยจับเด็กนอนสลับที่ วันนี้เอาศีรษะไว้หัวเตียง เขาจะชอบมองกลางห้อง พรุ่งนี้เอาศีรษะไว้ปลายเตียง แกจะมองมาที่เดิมแต่ใบหน้าจะพลิกอีกข้าง ศีรษะจะไม่แฟบไปข้างหนึ่ง ทำอย่างนี้ตลอดไปสลับกันทุกวัน
ใจหมอคิดว่าให้นอนคว่ำดีกว่าเด็กจะคุ้นเคย ถ้าคุณเริ่มเสียแต่แรกๆ บางคนจะนอนลักษณะนี้จนโต บางคนจะเปลี่ยนเป็นนอนหงายเมื่อเขารู้สึกพลิกคว่ำได้ ข้อเสียของการนอนคว่ำ อย่างเดียวคือ คุณหมอโรคกระดูกกล่าวว่าในท่านี้จะทำให้เด็กบิดปลายเท่าเข้าหรือออกมากกว่าธรรมดา พอเดินได้แกอาจจะเดินปัดๆเกเข้าใจ ที่แต่หมอหลายๆคนก็บอกว่า เมื่อเด็กเริ่มเดินได้ วิ่งได้ สิ่งเหล่านี้จะแก้ไขด้วยตัวเองได้ ถ้ายังไม่หาย ต้องไปหาแพทย์ เพราะอาจต้องใส่รองเท่าตัดก็ได้
บางคนบอกว่านอนตะแคงท่าจะดี เอาหมอน 2 อัน มากั้นไว้ ให้เด็กอยู่น่านอนตะแคง แต่จะอยู่ในท่านี้ไม่ได้นานเด็กจะพลิกเป็นคว่ำหรือหงาย
ท่านอนคว่ำเด็กจะเอียงหน้าทำให้รูจมูกพ้นจากเตียงและหายใจได้ ถ้าเด็กแหวะนมก็จะเลอะผ้าปูเตียง แต่ไม่สำลักลงปอด
เมื่อเด็กอายุได้ 6 เดือน เขาอาจจะนอนตามใจชอบ บางคนก็คว่ำตลอดไป บางคนก็นอนตะแคง บางคนก็นอนหงายไปเลย 
|